doomovie หนังใหม่ หนังHD ดูหนัง2022
doomovie The Next 365 Days กลับมาอีกทีสำหรับหนังรักสุดรุ่มร้อน รีวิวหนังออนไลน์ 365 Days (365 DNI) ภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายที่ผลิตจากนิยายตรีภาคของผู้เขียนชาวประเทศโปแลนด์ บลังกา ลิปินสกา ภาคนี้เริ่มมองเห็นความรักสามสลดแจ้งชัดกว่าภาคที่แล้ว มัสสิโม หนังฟรี (ไม่เคเล มอร์โรเน) มาเฟียสิสิลีชายหนุ่มหล่อสุดฮอตรักเลาร่า (อันที่นา-มาเรีย เชกลูสกา) เมียสาวของเขามากมาย แต่ว่าเนื่องจากว่าความแตกต่าง ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้หัวใจของเลาร่าเริ่มมีนาโช (สิโมเน ซูสินทุ่งนา) ชายหนุ่มหล่อแสนอบอุ่น เข้ามาป่วนปั่นเพิ่มมากขึ้น เรื่องราวจะเป็นยังไง
ตลอดกับคาวมเย้ายวนที่เกือบจะหมดความน่าเรียกร้องหา หนังโรแมนซ์อีโรติกสมัยใหม่สุดบันลือโลกใน “The Next 365 Days” ที่กลับมาสืบต่อเรื่องราวครบสามภาคในหนังภาคปัจจุบันนี้ ที่ไม่น่าเชื่อว่าหนังน้ำเสียทำนองนี้จะเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่สำคัญของแวดวงหนังในขณะนี้ แม้กระนั้นเมื่อกล้าทำออกมาแล้ว ผู้ชมก็กล้ามองต่อ แม้ว่าจะรู้สึกกล้ำกลืนไม่น้อย ภายหลังภาคที่แล้วทำเอาไว้เจ็บแสบ…แบบไม่น้อยหน้ากันเลย
แสดงนำโดย อันท้องนา-มาเรีย เชกลูสกา (Anna-Maria Sieklucka) ผู้ครอบครองบท ‘เลาร่า’ เหมือนกันกับ ไม่เคเล มอร์โรเน (Michele Morrone) ที่กำลังจะได้กลับมาสวมบทมัสสิโมเหมือนเคย สมทบด้วย สิความสงบ ซูสินท้องนา (Simone Susinna) ที่มาสวมบทบาท ‘ทุ่งนาโช’ พระรองของเรื่อง ทั้งยัง 2 ผู้กำกับ บาร์บารา เบียวอวัส (Barbara Bialowas) แล้วก็ โทมาสซ์ มันเดส (Tomasz Mandes) ก็ยังคงรับหน้าที่สร้างและก็เขียนบทหนังให้กับภาคนี้อีกเหมือนเคย
ในภาคที่3 นี้ จะเน้นย้ำไปที่ผู้แสดง ‘เลาร่า’ หญิงสาวผู้เป็นเมียหัวหน้ามาเฟียมีอำนาจที่สุดในสิสิลี ในขณะที่กำลังกลายเป็นเป้าจากคู่อาฆาตของผัวคุณ ‘มัสสิโม’ ถัดมาเลาร่าที่กำลังมีท้องก็ถูกจู่โจม รวมทั้งคุณจะต้องทำทุกๆอย่างเพื่อตนเองรอดชีวิตในเวลาเดียวกันตัวมัสสิโมก็จะต้องตกลงใจครั้งที่ยากที่สุดในชีวิต เขาจะเป็นเยี่ยงไรถัดไปหากว่าไม่มีเลาร่าอยู่ข้างกาย เขาจะชุบเลี้ยงแลลูกเพียงคนเดียวได้ไหม? วังวนชีวิตของพวกเขาจะเป็นยังไง? รวมทั้งในอีก 365 วันของพวกเขานั้นจะจบลงยังไง? จะต้องไปพบคำตอบกัน
ข้างหลังการคัดค้านของกรุ๊ปมาเฟีย อาเดรียโน น้องชายแฝดของมัสสิโมเสียชีวิต doo movie เลาร่ามีชีวิตรอดจากการเช็ดกยิงแต่ว่าคุณจำเป็นต้องเสียทารกในท้องไปอีกที ถึงมัสสิโมจะชอบใจที่เลาร่ารอดตายมาได้ แม้กระนั้นเขาก็ยังคงคลางแคลง ในความข้องเกี่ยวของเลาร่ากับท้องนาโช ทำให้ทั้งสองยิ่งบาดหมางกันหนักเข้าไปอีก ในที่สุดแล้วความรักของเลาร่าจะเป็นยังไงจำเป็นต้องไปติดตามทาง Netflix หนังยาว 1 ชั่วโมง 53 นาที
เลาร่าจำต้องเสียลูกไปถึงสองครั้งเรื่องราวเกี่ยวกับความเกี่ยวเนื่องที่เปราะปราง บนเบื้องต้นของความเชื่อถือรวมทั้งความหึงหวงที่ยังคงคือปัญหาบ่อนทำลายระหว่าง เลาร่า กับ มัสสิโม โดยที่ ที่นาโช ที่เปลี่ยนเป็นผู้ดื้อดึง ก็กำลังจ้องมองจะสะบั้นความรักของทั้งสองลงเสีย ก่อนเกิดเป็นเงื่อนที่ความรักสามเส้าที่ไม่ทราบว่าจะข้อสรุปแล้วจะลงเอ่ยในแนวทางใดกันแน่?
ข้างหลังเลาร่าจำต้องเสียลูกไปถึงสองครั้ง ความรักที่มีต่อมัสสิโมก็เริ่มต่ำลง บวกกับตอนที่อยู่กับที่นาโช คุณรู้สึกได้ถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนที่เขามีให้คุณ ต่างจากผัวอย่างสิ้นเชิง เลาร่าอุตสาหะยับยั้งใจไม่ให้ตกหลุมรักเขา แต่ว่าทุ่งนาโชก็ดันทุรังที่จะรุกคืบหน้า ภาคนี้เรื่องราวใช้ได้ เดินเรื่องดี เล่าถึงชีวิตสมรส เดินมาถึงทางตัน ความรักแปลงเป็นน่าระอา ฉากรักของพวกเขาก็ลักษณะเดียวกัน เมื่อได้ลองของใหม่ หัวใจก็วิ่งไปตามเสียงเรียกร้องของความต้องการ แม้กระนั้นมีผัวเป็นมาเฟีย ผู้มีอำนาจที่พร้อมจะพังทลายทุกสิ่งทุกอย่างถ้าหากผิดดวงใจ ผลสรุปจะเป็นเยี่ยงไรที่ตรงนี้น่าติดตาม
อาจจะไม่ต้องเกริ่นอะไรกันมากมายอีกแล้ว เนื่องจากว่าภาคนี้ก็ยังคงได้โอกาสมนักแสดงแล้วก็กลุ่มผู้ผลิตชุดเดิม เพราะว่าเป็นการถ่ายทำตลอดมาจากภาคที่แล้วนั่นเอง แน่ๆว่าหนังหัวข้อนี้เกือบจะไม่เหลือเนื้อหาอะไรอีกแล้ว doomovie เพราะเหตุว่าหนังแทบไม่เคยมีอะไรจุดนั้นมาตั้งแต่เริ่ม โดยเห็นได้ชัดว่าภาคนี้อุตสาหะอย่างมากที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องหาของหนัง แต่เค้าเรื่องที่อ่อนมากมายๆมาตั้งแต่เริ่ม…แทบทำอะไรมิได้แล้ว
ภาคนี้ผูกปมไปสู่ข้อความสำคัญรักสามเส้าเข้าไปอย่างแจ่มกระจ่าง แต่ว่าเป็นการใส่เข้าไปแบบแข็งทื่อๆบนฐานรากของความน้ำเสียตามเนื้อเรื่อง แล้วก็อีกเหมือนปกติ หนังประเด็นนี้มีรายละเอียดอยู่แค่เพียงถือมือเดียว แต่ว่าทำมาร้อยเรียงเป็นหนังเกือบจะ 2 ชั่วโมง ที่เต็มไปด้วยน้ำไร้รสชาติที่แออัดให้กับผู้ชมแบบอิ่มแทบพุ่งแล้วก็สำลักออกมา ดังนี้จริงๆทำออกมาเป็นหนังสั้น 30 นาทีจบยังได้เลยด้วย
การเล่าเรื่องของหนังก็ยังมีโทนเดิมกับภาคที่แล้ว มีความเป็นหนังผสมมิวสิควิดีโอไปเรื่อยแม้กระนั้นยังดียิ่งขึ้นมานิดหน่อยตรงที่ภาคนี้มีรายละเอียดแทรกกับเรื่องราวแทรกเข้าไปบ้าง ไม่ใช่ว่าโหวกเหวกอะไรก็เปิดเพลง แล้วแพนกล้องทำภาพสโลโมชั่นไปๆมาๆกับภาพทิวทัศน์อย่างกับภาคก่อนทำเอาไว้ แม้กระนั้นอย่างไรก็ดี ก็ยังเป็นเสมือนกวยเตี๋ยวจานชามนึงที่เต็มไปด้วยน้ำซุป ยังให้เครื่องกับเส้นมาไม่สมดุลเท่าไร
เรท R 18+ เหมือนปกติตอนที่ดีกรีความแซ่บของหนังภาคนี้ที่เผื่อคนไหนกันแน่ต้องการทราบ บอกตรงๆตามความรู้สึกเลยว่า เพิ่มความแซ่บขึ้นจากภาคที่แล้วขึ้นมาอยู่บ้าง มีฉาบวาบหวิวแล้วก็ฉาก 18+ แทรกเข้ามามากยิ่งขึ้น doomovie แม้กระนั้นก็ยังคงเป็นการใส่เข้ามาด้วยฟีลแห้งๆจืดชืดๆที่เปลี่ยนเป็นความอุตสาหะ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหะยั่ว เพียรพยายามโลม อุตสาหะซาบซึ้ง ทำให้ทั้งหมดทุกอย่างในซีนเล่านี้เป็นสิ่งที่มานะมากเกินความจำเป็น มากมายกระทั่งอาจจะส่งผลให้ผู้ชมเคลิ้มตามกระทั่งเผลอหลับไปได้เลย
ด้วยการที่หนังเพียรพยายามกลับไปขายแนวอีโรติกรวมทั้งวาบหวิวแบบเดิมๆโน่นยิ่งมีผลเสียต่อรายละเอียดของหนัง เนื่องจากว่าเอาเข้าจริงๆพวกไดอะล็อกแล้วก็บทต่างๆของ ภาคนี้ เกือบจะมิได้จูงใจผู้ชมสักเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าจะซีนอารมณ์หรือซีนดราม่าอะไรก็แล้วแต่กลับไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อฟังอะไรอีก เพราะเหตุว่าส่วนประกอบทั้งหมดทุกอย่างแปลงเป็นแนวยาวแบนไปหมดแล้ว
การออกแบบผู้แสดงต่างๆในเรื่อง ก็ยังคงแปลกรวมทั้งขัดใจขัดอารมณ์อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็น 3 นักแสดงหลักของเรื่อง ที่ประดิษฐ์ประดอยท่าทีกันเยอะเกินไปสักนิดสักหน่อย ทั้งยังหนังยังมีตัวละครสมทบหลายๆตัวที่เกินจำเป็น โดยยิ่งไปกว่านั้นบทสหายนางเอกที่เป็นติดอยู่แรกเตอร์ที่เสมือนจะดี มาช่วยดึงสติให้ กลับเป็นตัวละครที่เสริมเข้ามารวมทั้งทำให้น่ารำคาญที่สุดในหนังเลยก็ว่าได้
เลิฟซีนก็ยังจัดแน่นจัดเต็ม มีเลิฟซีนสลับไปๆมาๆระหว่างเลาร่ากับสองชายหนุ่ม มีอีกทั้งซีนจิตรวมทั้งของแท้ doomovie เลิฟซีนกับท้องนาโชคือแซ่บเว่อร์แล้วก็ช้านาน รุ่มร้อนมากกว่าภาคที่แล้วแต่ว่าโดยรวมยังอ่อนกว่าภาคแรก ภาคนี้มีเซอร์ไพรส์คิสด้วย เซอร์ไพรส์แบบมากยิ่งร้ายแรงไปเลย ไม่สปอยนะไปดูเอง เซอร์ไพรส์แน่
สรุปว่า ภาคนี้ ดียิ่งขึ้นจาก 365 Days: This Day ขึ้นมานิดนึง นิดหนึ่งจริงๆตรงที่รายละเอียดของหนังต่างๆมีบทขึ้นมาบ้าง แต่ว่าภาพรวมนั้นนี่ก็ยังคงเป็นหนังที่มีส่วนประกอบต่างๆจัดได้ว่าไม่น่าอภิรมย์เยอะแค่ไหน ไร้ซึ่งเสน่ห์ ขาดอารมณ์ร่วม แม้ว่าจะเป็นหนังโรแมนซ์อีโรติกที่คาดหวังจะขายฉากวาบหวิว 18+ แม้กระนั้นก็ยังคงประชดใส่เข้ามาแข็งทื่อๆและก็จืดจางไม่น้อย
The Next 365 Daysผลสรุปเชิญลุ้นว่าจะมีภาคถัดไปไหม ด้วยเหตุว่านิยายของบลังกา ลิปินสกา จบแล้วมีเพียงแค่สามเล่ม แต่ว่ามองทรงแล้วจังหวะจะมีภาคสี่ไม่น้อยเลย ก็มารอลุ้นว่า ผลสรุปความรักของสองชายหนุ่มหนึ่งสาวจะเป็นยังไง
ผู้ใดเป็นแฟนภาพยนตร์ 365 Days ไม่พลาดกันนะภาคใหม่มาแล้ว เข้าฉายวันนี้เอง 19 เดือนสิงหาคม 2565 หรือถ้าเกิดคนใดกันถูกใจแนวโรแมนติกแซ่บเว่อร์อย่าง Fifty Shades of Grey รวมทั้ง Through My Window ก็ตามไปเก็บกันอีกทั้งสามภาคไปเลย รับรองความฮอตหล่อแซ่บของชายหนุ่มๆในเรื่อง รวมทั้งความรุ่มร้อนแซ่บเกิน 18+ ของเลิฟซีน ถ้าหากมิได้มองภาคอื่นๆมาก่อนก็พอสมควรเข้าใจอยู่
The Lake สระรอยดำ
หนังประเด็นนี้สำเร็จงานดูแลของ ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต ลี ทอง ที่ไปเติบโตในอเมริกา เรียนภาพยนตร์ตรงนั้น และก็ได้ทำเบื้องหน้าเบื้องหลังให้หนังดังหลายเรื่อง ก่อนจะกลับมาเมืองไทยเพื่อทำภาพยนตร์ไทย ได้ส่งผลงานเรื่องแรกออกฉายไปแล้วชื่อ The Maid สาวลับใช้ ทางเน็ตฟลิกซ์ ดูหนังฟรีสำหรับผู้แสดงนำฝ่ายของ The Lake สระรอยแดง นั้นมีสุชาร์
พยายามยิ่ง, วิทยา ปานศรีสวย, ระวัง แย้มนาม, ธนฉัตร ตุลยฉัตร, ธีรภัทร์ สัจจกุล แล้วก็ ทองคำษา เวชกาม (ลำไย ไหทอง) เล่าราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในเมืองต่างจังหวัดของสระรอยแดงที่ได้ศึกษาและทำการค้นพบไข่แปลก และก็นำไข่กลับเข้ามาในเมือง แล้วหลังจากนั้นก็กำเนิดมีผียักษ์จากสระตรงนั้นออกมาก่อกวนเพื่อตามหาไข่ของมัน
บอกเลยว่าหนังหัวข้อนี้อาจทำให้ลืม The Snake ทุน 50 ล้านไปได้นะด้วยเหตุว่า….ดูอย่างกับว่าแวดวงภาพยนตร์ไทยจะได้มีการปลุกชีพยักษ์สุดเข้มแข็งให้ได้ออกมาก่อกวนบริเวณที่ลุ่มโขงหลักจากการหลับมานานกว่า doomovie หลายพันปี เอาเข้าจริงมันมีข่าวสารหลุดมาก่อนวัววิดแล้วว่าจะทำภาพยนตร์ไทยแนวเปรตเรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวกับที่ลุ่มโชง แม้กระนั้นก็พบพี่วัววิดดับดาวรุ่งสะกระทั่งหนังหลายๆเจ้าจะต้องมาเป็นโรคเลื่อนยาว
ภายหลังที่ติดเชื้อเลื่อนมานานมากกระทั่งทุกคนลืมกันไปหมดสุดท้ายก็ได้มีข่าวสาร มา Update สำหรับภาพยนตร์ไทยฟอร์มใหญ่ 88 ล้านบาทหัวข้อนี้มองเห็น เลขหลักล้านละจิตใจไม่ค่อยดีเลย แฟนเพจ The Lake สระรอยแดง
มันมาเพื่อทวงบางอย่างที่เป็นเพจอย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ไทยหัวข้อนี้ ถึงเวลาเผยโฉมโปสเตอร์แรกของหนังออกมา เป็นแถวสันหลังของอสูรกายอะไรสักอย่างเหมือนสัตว์น้ำขนาดใหญ่ ที่เร้นกายอยู่ในคลื่นวารีตัวอำพรางตัวกระเป๋านอย่างเดียวกับแม่น้ำโขงริมตลิ่งชายแดนไทย-ลาว พร้อมทั้งคำโปรยปรายที่ว่า “มันมาเพื่อทวงบางสิ่งบางอย่าง เปลี่ยนแปลงเมืองทั่วทั้งเมืองให้เปลี่ยนเป็น หายนะ”
แต่ว่าจากการคะเนการของหลายๆข้างกล่าวถึงว่าจะเกิดเรื่องที่เกี่ยวกับพญานาครวมทั้งตำนานที่แถบที่ลุ่มโขงซึ่งแน่ๆว่าควรเป็นหนังที่ให้อารมณ์เสมือน Anaconda ของทางฝรั่งไม่ก็ไพรินหายนะก็เป็น แม้กระนั้นนักเขียนก็ต้องการให้มันเป็นแถวเดียวกับนกพายุ ตำนานหนังอสูรกาย CG เรื่องแรกๆของไทย
แต่ว่าก็นะถ้าเกิดเอ๋ยถึงตำนานความเชื่อถือของคนประเทศไทยแล้ว จังหวัดสระรอยดำเองก็มีตำนานพญานาค คือเรื่องของความเชื่อถือ ความเชื่อ ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนประเทศไทยอีสานมาอย่างช้านาน และก็เหนียวแน่นมากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดนนี้ ที่จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ พญานาค อยู่มากไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้ผู้กำกับบางครั้งอาจจะนำไอเดีย 15 เย็น เดือน 11 มาปัดฝุ่นและก็ใส่ธีมตัวประหลาดออกมาก่อกวนคนภายในน่านโข่งลงไปก็นับเป็นไอเดียที่ไม่เลว
ดยหนังหายนะตัวประหลาดหัวข้อนี้ แสดงนำโดย “ออม สุชาร์”, “ลำไย ไหทอง” สมทบด้วย “วิทยา ปานศรีสวย”, “ตื่น แย้มนาม”, “ตุ้ย ธีรภัทร์”, “วันใหม่ ฉัตรบริรักษ์” แล้วก็ “อาร์ตี้ ธนฉัตร” พื้นฐานได้วางคิวฉายเอาไว้ 18 เดือนสิงหาคมนี้
The Lake สระ/รอยดำ หนังแอ็คชั่นตื่นเต้นของผู้กำกับชายหนุ่มหัวใจอีสาน ลี ทอง doomovie ผู้ครอบครองรางวัลผู้กำกับดีที่สุด ในปี 2010แล้วก็ 2011 ในเทศกาลหนังเมืองฟลอริดา แล้วก็มีประสบการณ์ดำเนินการเบื้องหน้าเบื้องหลังภาพยนตร์ดังในฮอลลิวูดมาล้นหลามThe Lake บ่อน้ำ/รอยดำ
เกี่ยวกับเรื่องราวของอสูรกาย ที่โผล่ขึ้นมาจากทะเลสาบ รวมทั้งมุ่งจู่โจมหมู่บ้านเล็กๆเมื่อไร้การช่วยเหลือเกื้อกูลจากคนภายนอก ทุกคนในหมู่บ้านได้ทอดทิ้งเรื่องขัดสนส่วนตัว แล้วหันมาร่วมมือกันเพื่อคุ้มครองหมู่บ้านของพวกเขา จากการรุกรานของตัวประหลาด ซึ่งจากการร่วมใจกันในคราวนี้ กลับทำให้ทุกคนได้เจอกับความเป็นจริงที่ทรามมากกว่าการต่อสู้กับตัวประหลาดที่เรียกว่าหายนะอย่างแท้จริง
The Lake สระรอยดำ เรื่องราวของเด็กสาวราษฎรที่ชื่อ เมย์ เจอไข่ยักษ์ปัญหาและก็ได้เก็บกลับมา ก็เลยเป็นจุดเริ่มแรกที่แปลงเมืองทั่วทั้งเมืองให้เปลี่ยนเป็น “หายนะ” ตัดขาดผู้คนจากโลกข้างนอก ข้าราชการรวมทั้งราษฎรในพื้นที่ รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์คนจีนที่บังเอิญเข้ามาทำการศึกษาในไทย ก็เลยจำเป็นต้องรวมกำลังทุกสิ่งทุกอย่างที่มี เพื่อจับอสูรกาย “ไทจู” คลุ้มคลั่งตัวนี้ ก่อนที่จะทุกๆอย่างจะสายเกินความจำเป็น
ผลงานหนังเรื่องปัจจุบันของนักสร้างภาพยนตร์แบบใหม่ที่กำลังชำนาญอยู่ในแวดวงภาพยนตร์ไทยขณะนี้ อย่าง “ลี ทอง” ที่มาในหัวข้อนี้เขาทุ่มเทให้กับแทบทุกส่วนประกอบของหนัง doomovie ตั้งแต่แมื่อการจุดประกายหาไอเดียประดิษฐ์ปลุกปั้นเรื่องนี้ขึ้นมากับมือ นั่งเก้าอี้ผู้กำกับดูแลงานสร้าง เขียนบทเอง ซ้ำยังรับหน้าที่ตัดต่อภาพยนตร์เองทั้งสิ้นด้วย บนฐานรากความแพสชั่นส่วนตัวของเขา มีต้องการจะเติมแต่งจินตนาการวัยเด็กกับเบื้องหลังเป็นหลักที่ถิ่นฐานบ้านช่องของเขา
หากว่าพวกเราจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจรวมทั้งความมุ่งมั่นที่แน่แน่วมากมายๆในความมานะบากบั่นที่ตัวสร้าง “ไทจู” หรือ หนังตัวประหลาดแบบไทยๆออกมาสักเรื่อง เป็นที่ยอมรับเลยว่าแพสชั่นนี้ในหนังมีอยู่ล้นเปี่ยม เพียงแต่ว่าเมื่อได้ทดลองนำเอาส่วนประกอบต่างๆมาประกอบรวมร่างเข้าด้วยกันทั้งสิ้นดูแล้วนั้น มันเปลี่ยนเป็นปัง…ที่ไม่ให้ปังด้วยเหตุว่าซาบซึ้งใจ แม้กระนั้นเป็นปังที่เกือบพังครืน เนื่องจากเกือบจะทุกส่วนในหนังประเด็นนี้นั้น ยังไม่อาจจะติดต่อสื่อสารถึงผู้ชมได้ และก็สารของหนังยังค่อนข้างจะอ่อน..ถึงอ่อนมากมาย
สูตรสำเร็จหนังอสูรกาย เริ่มที่บทหนังของ The Lake ที่เกือบจะหาใจความอะไรก็แล้วแต่มิได้เลย หนังมิได้มีการเกริ่นกล่าวนำเรื่องราวอะไรก็ตามมาก่อนทั้งหมด แบบว่ามาถึงก็จับโยนอสูรกายและก็ต่อสู้บุกเมืองแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งหมด ถึงแม้ว่าในฐานะผู้ชมก็มานะที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ผลิตต้องการจะติดต่อและตาม แต่ว่าก็ดูเหมือน..เอ๊ะ สรุปก็มิได้ไปทางนั้น และจากนั้นก็มิได้ไปทางนี้ เปลี่ยนเป็นบทหนังที่แกว่งไกวเคว้งคว้างไปๆมาๆ เสมือนไม่เคยรู้จะไปทางไหน ถึงแม้ว่าจะช่วงท้ายในตอนผลสรุปก็เกือบหาแนวทางไม่พบว่าจะไปจบลงที่ไหนดี
ในเมื่อบทหนังออกมาอย่างงี้ ก็ย่อมส่งผลเสียตลอดไปเป็นลูกโซ่เกือบทั้งหมด doomovie บทที่เผลอๆก็ไม่สามารถที่จะส่งตัวละครให้เด่นขึ้นได้ ซึ่งเป็นที่โชคร้ายมากมายๆด้วยเหตุว่า The Lake แทบมิได้มองเห็นหน้าที่การแสดงที่น่าจำอะไรก็แล้วแต่เลยสักซีนเดียว ทั้งๆที่ได้ดาราระดับยอดความสามารถมาต่อคิวกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น “ตุ้ย ธีรภัทร์”, “ออม สุชาร์” หรือ “ปู วิทยา” ที่ทั้งปวงถูกเอามาดีไซน์ไม่มีตำแหน่ง เกือบจะกล่าวโทษเป็นตัวละครยืนนำ (Protagonist) มิได้ ในขณะที่ทุกคนมอบการแสดงมาอย่างเต็มเปี่ยมก็ตาม
รวมทั้งอีกส่วนที่แปลงเป็นจุดที่ผลักรั้งให้ภาพรวมของ The Lake น่ากลัวพรูตรงหนักยิ่งเข้าไปอีก ก็คืองานตัดต่อ (Editing) และก็การลำดับการเล่าเรื่องราว (Segment) ที่ผู้ผลิตรับหน้าที่นี้อีกเหมือนกัน แปลงเป็นการว่าหนังมีแค่เพียงราว 15 นาทีแรก ที่เริ่มขึ้นมารวมทั้งเพียงพอจะสร้างอรรถรสน่าดึงดูดขึ้นได้ แม้กระนั้นเมื่อมาถึงฉากสั่งน้ำที่ใครๆจำเป็นต้องจำเมื่อได้มองนั่้งหัวข้อนี้ โน่นเป็นสัญญาณของความน่ากลัวเริ่มขึ้นแล้ว
การตัดต่อหนังประเด็นนี้แทบยังไม่ราบเรียบและไม่เกี่ยวจ้องมองกับเนื้อซักเท่าไหร่ หรือหากต้องการจะให้บอกแบบขวานผ่าซากจริงๆจุดนี้เป็นหายนะของหนังหายนะหัวข้อนี้จริงๆหนังจำต้องพังยับเยินลงเพราะว่า doomovie การลำดับเรื่องที่กระโดดไปๆมาๆหลายครั้ง ซ้ำรายกับมุมกล้องถ่ายรูปที่พากเพียรปลุกอารมณ์กลับทำให้ปวดศรีษะ ทั้งยังยังมีฉากซีนที่ไม่สม่ำเสมอ ตัดฉับไปๆมาๆขัดอารมณ์ผู้ชมหลายครั้ง แทนที่หนังจะดึงอารมณ์จริงจังให้อยู่กับผู้ชม เปลี่ยนเป็นความเฮฮามาแทนที่ เพราะว่างานตัดต่อที่บางจุดไม่น่าจะปลดปล่อยผ่านมาแบบงี้ได้
โดยยิ่งไปกว่านั้นในหนัง The Lake ที่บรรยากาศโอบล้อม (Environment) โดยมากในหัวข้อนั้น ควรจะมีฉากฝนตกอยู่แทบจะครึ่งเรื่อง ด้วยเหตุว่าเหตุการณ์ลมพายุเข้าในพื้นที่ แต่ว่าน่าขำขันที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วขณะเวลาหนึ่งกัน แต่ว่าสลับกันไปๆมาๆแต่ละพื้นที่ ภาพที่ตรงนั้นฝนกำลังตกหนัก แต่ว่าตัดภาพมานี้กลับไม่มีฝน ทั้งๆที่โลเคชั่นตามเนื้อเรื่องนั้น ท้องที่จุดเกิดเหตุก็มิได้กว้างใหญ่อะไรถึงกับขนาดนี้ลักษณะอากาศจะต่างกันได้แบบนี้ ถึงจะเป็นเพียงแต่จุดนิดหน่อยในหนัง แต่ว่าแปลงเป็นสิ่งที่ขัดอารมรณ์ไปอย่างโชคร้ายไม่น้อย
แม้กระนั้นก็ใช่ว่า สระรอยดำ จะเป็นหนังที่ตกอับรุนแรงขนาดนั้น ด้วยเหตุว่าอย่างต่ำๆตัวหนังก็ยังมีจุดเด่นอยู่เช่นเดียวกัน และก็น่าจะเป็นข้อดีและก็จุดเด่นสิ่งเดียวที่มองเห็นในหนังหัวข้อนี้ มันก็คือวิธีงานสร้างที่ทำออกมาก้าวหน้า และก็เป็นงานสร้างที่ช่วยยกฐานะงานโปรดักชั่นแวดวงภาพยนตร์ไทยเลยก็ว่าได้ จำเป็นต้องตบมือให้ดังๆกับงานสร้างในแบบ Animatronic ประสมประสานกับซีจีเคล็ดลับพิเศษที่ช่วยค้ำชูกันได้ดี ส่วนประกอบนี้ช่วยเชิดหน้ายกหน้าให้กับหนังหัวข้อนี้เจริญเด่น
งานสร้างเนื้อสร้างตัวอสูรกายหัวข้อนี้ออกจะออกมาดี และก็แปลกใหม่ในแวดวงหนังไม่นาน เนื่องจากจำนวนมากในยุคนี้ใครๆก็จะวางแบบงานในแบบแอนิเมชั่นกราฟิกกันเป็นหลัก แม้กระนั้นหัวข้อนี้ใชหุ่นเข้ามาประสมประสานด้วย doomovie ที่เห็นได้ชัดว่าผู้ผลิตมีแรงผลักดันแล้วก็เป็นแฟนหนังตัวประหลาดดังๆของฮอลลิวูด อย่างต่ำๆก็ควรจะเป็นแฟรนไชส์ Jurassic อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเหตุว่านี่เป็นเคล็ดลับชนิดเดียวกันกับที่หนังฮอลลิวูดเรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้วก็จับมาใช้ และก็ประเด็นนี้ก็นับว่าไปถึงเป้าหมายกับการวางแบบไทจูในคราวนี้อย่างน่าพึงพอใจ
The Lake บ่อน้ำรอยดำ ตกลงว่าโดยภาพรวมนั้น สระรอยดำ นับได้ว่าเป็นหนังที่เข้ามาช่วยยกฐานะแวดวงภาพยนตร์ไทยในทางเคล็ดลับงานสร้างที่ผิดตาแล้วก็แปลกใหม่แบบที่ไม่ค่อยมองเห็นคนใดเคยทำแบบนี้มาก่อน แม้กระนั้นหนังก็ยังสอบตกในพาร์ทอื่นๆอีกทั้งบทหนัง การเล่าเรื่อง รวมทั้งการลำดับตัดต่อที่ทำให้หนังเข้าขั้นแทบจะหายนะอย่างยิ่งจริงๆ
ถึงจะโชคร้ายที่ผลสรุปที่ออกมานั้น น่าจะจะต้องพูดว่า…ยังมิได้บรรทัดฐานในแบบที่คาดหวังเอาไว้ แม้กระนั้นพวกเราก็เป็นอีกหนึ่งแรงใจให้กับผู้ผลิต เพราะเหตุว่าอย่างต่ำๆมองเห็นถึงเจตนารวมทั้งความพากเพียร รวมทั้งสารภาพเลยว่าเคล็ดลับงานสร้างของพวกเขาในหัวข้อนี้…ก็เยี่ยมอยู่
The Broken Hearts Gallery
ภาพยนตร์รักโรแมนติกคอเมดี้ ดูแลรวมทั้งเขียนบทหนแรกของ ที่นาตาลี ครินสกี แล้วก็เซเลน่า โกเมซ รับหน้าที่เป็น Executive Producer แสดงนำนำโดย พบรัลดีน วิสวาท้องนาธาน, เดเคอร์ มอนต์โกเมอปรี่, Utkarsh Ambudkar, มอลลี่ กอร์ดอน อาร์ทูโร แคสโตร เบอร์ท้องนาเดต ปีเตอรส์ แล้วก็ ฟิลลิปา ซู โซนี่ พิคพบร์ รับหน้าที่สร้างรวมทั้งจำหน่าย ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักที่มักมาพร้อมการอกหัก การปล่อยวาง และก็การยินยอมรับความเจ็บของตนเอง ซึ่งมันน่าดึงดูดเพราะว่าที่อเมริกามีเอ็งเลอปรี่อกหักที่ให้คนเอาข้าวของมาเก็บไว้จริงๆที่ LOS ANGELES!
ผู้ช่วยมัณฑนากรสาวในนิวยอร์กที่ถูกใจเก็บของของที่ระลึกจากแฟนที่เคยคบจนถึงเกลื่อนกลาดห้อง และก็เป็นที่เอือมสุดจะทนของเพื่อนฝูงๆกลับควรมีชีวิตกลับในเลวทรามช่วงเวลากลางคืน เมื่อคุณถูกเท doomovie อีกทั้งด้านงานการแล้วก็ความรักโดยคนรักเก่าอย่าง แม็กซ์ จนได้ไปพบกับ นิค เด็กหนุ่มไร้อารมณ์ผู้กำลังทำธุรกิจเปิดรีสอร์ทแม้กระนั้นประสบพบปัญหาบางสิ่งบางอย่าง
แต่ว่าลูซี่กลับแลเห็นช่องทางที่จะให้ผู้ที่อกหักทั่วทุกมุมเมือง เอาของฝากจากความรักเก่าๆมาไว้ที่โฮเต็ล โดยตั้งเป็น มึงเลอปรี่คนอกหัก สำหรับผู้ที่ต้องการมูฟออน แม้กระนั้นไม่กล้าทิ้งของแฟนเก่า ได้เอามาแสดงเป็นนิทรรศการ ในขณะที่ธุรกิจกำลังเดินทางไปได้งาม ทั้งสองก็ดันปาร์คหน้าจอยกันซะงั้น แล้วอย่างนี้มึงเลอปรี่คนอกหัก จะเปลี่ยนเป็นมึงเลอปรี่แฟนกันไหม ลูซี่จะเข้าใจกล้าความเจ็บของตน เพื่อเดินหน้ารวมทั้งสุขสบายหลุดพ้นจากความเกี่ยวเนื่องห่วยแตกๆแล้วเริ่มต้นใหม่ได้เช่นไร
ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวความรักและก็การอกหักได้อย่างแยบคาย มีคำกล่าวหรืออะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ผู้แสดงกล่าวออกมาแล้วสามารถเอามาใช้ได้ในชีวิตจริง แม้ว่าจะบทหนังจะออกแนวเรียบง่ายประสาหนังรักรอมคอมที่มีพล็อตเรื่อยเล่าเรื่องราวนึงไปเหตุนึง แต่ว่าในระหว่างการเดินทางของเรื่องราว นอกเหนือจากความเชื่อมโยงระหว่างผู้แสดงแล้ว
หนังยังให้พื้นที่กับข้าวของเก่าต่างๆได้มีหน้าที่แทนความจำแล้วก็ความเจ็บของผู้ที่เคยรักกันผ่านผู้แสดงหลักได้อย่างดีเยี่ยมซึ่งก็ถ่ายทอดมาในแบบอย่างโอเวอร์แอ็คติ้ง ร้องไห้อย่างไรให้มองเฮฮา โวยวายอย่างไรให้มองฮา เมาท์กันอย่างไรให้มองขำ ผ่านนักแสดงของนิคแล้วก็ลูซี่ที่ได้มาพบกันท่ามกลางวันห่วยแตกๆของชีวิต ได้ช่วยเหลือกันปฏิบัติงาน ได้ทำความเข้าใจตัวตนซึ่งกันและกัน ได้มูฟออนไปร่วมกัน ซึ่งเป็นช่วงๆที่พวกเราได้ยิ้มไปพร้อมๆกับต้องการทราบว่าเรื่องจะจบเช่นไร แถมยังเบาๆมองเห็นนักแสดงเริ่มกลับเนื้อกลับตัวไปครั้งละก้าว
ผู้แสดง พบรัลดีน วิสวาที่นาธาน เมื่อของรำลึกจากสมัยก่อนคู่รักสามารถสร้างธุรกิจได้ tragabuches มั่นใจว่าหลายท่านที่จบความเกี่ยวข้องกับแฟนไปสุดแต่ยังไม่ทิ้งข้าวของในสมัยก่อนที่เต็มไปด้วยความจำดีๆด้วยกัน แม้ว่าจะต้องการก้าวเดินต่อไปด้านหน้าแต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะทำใจทิ้งไปได้น่าฟังมันเป็นเครื่องรับรองว่ากาลครั้งหนึ่งความรักระหว่างคนสองคนเคยเบ่งบานอย่างงดงาม
The Broken Hearts Gallery โดยรวม The Broken Hearts Gallery ก็เป็นหนังโรแมนติกเบาสมองที่ผู้ชมคงจะพอเพียงคาดการณ์เส้นเรื่องได้อย่างง่ายๆ เนื่องจากจังหวะการดำเนินเรื่องนั้นออกจะไปตามสูตรสำเร็จ เพื่อความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าแฟนคลับหนังรักคงจะเพลินรวมทั้งเอ็นหน้าจอยไปกับหนัง ซึ่งหนังมากับพล็อตเก๋ๆที่เชื้อเชิญผู้ชมเข้ามามอง แต่ว่าเอาเข้าจริง
ไฮไลต์ที่สร้างสีสันให้กับหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเล่าบทสำหรับพูดของนางเอกกับกลุ่มสหาย ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน อารมณ์จิกกัดเม้าท์มอยสไตล์ผู้หญิงดูแล้วสมจริงสมจังมากมายเสมือนพวกเราได้ไปนั่งคุยกับแก็งเพื่อนฝูงไปด้วย ยิ่งหากคุณเสพสื่อหรือวัฒนธรรมจากฝั่งตะวันตก คงจะยิ่งบันเทิงใจไปกับบทสำหรับพูดที่มีการอ้างอิงถึงบุคคลดังๆเยอะแยะ ไล่มาตั้งแต่ กางรด พิตต์, ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ไปจนกระทั่งวงเอ็นซิงค์