เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024)

เจ้าหน้าที่สายดำ

เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024) เป็นภาพยนตร์แอคชั่นคอมเมดี้จากประเทศเกาหลีที่เพิ่งจะออกฉายในปี 2024 ทาง Netflix โดยมี คิมอูบิน แสดงนำในบทของ อีจองโด หนุ่มน้อยที่เปลี่ยนแปลงจากการส่งไก่ทอดมาเป็นข้าราชการผู้ดูแลผู้ต้องขังติดกำไล EM และก็จะต้องปฏิบัติงานร่วมกับรุ่นพี่ที่ทุพพลภาพขา ซึ่งช่วยเสริมเรื่องราวให้มีมิติอีกทั้งในด้านดราม่ารวมทั้งการต่อสู้แอคชั่น​

ภาพยนตร์นี้มีความสมดุลระหว่างฉากแอคชั่นและก็การนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับปัญหาด้านสังคม โดยยิ่งไปกว่านั้นหลักการทำงานของผู้คุมปฏิบัติตนผู้ต้องขัง ทำให้รายละเอียดของหนังมีความตั้งใจจริงกว่าที่คาด แม้ว่าจะเป็นหนังแนวแอคชั่นผสมคอมเมดี้ก็ตาม ผู้แสดงนำฝ่ายอย่างคิมอูบินแสดงได้เด่น สามารถพรีเซ็นท์บทแอคชั่นได้อย่างเหมือนจริงรวมทั้งเข้มข้น

ในด้านงานสร้าง ตัวหนังมีการดีไซน์ฉากต่อสู้ที่จัดจ้า แม้ว่าจะไม่แปลกใหม่มากมาย แม้กระนั้นก็สามารถสร้างความสนุกสนานร่าเริงให้กับผู้ชมได้ โดยรวมแล้ว “ข้าราชการสายดำ” เป็นหนังที่เหมาะกับผู้ที่ประทับใจความสนุกสนานเบาๆแต่ว่าก็มีหลักสำคัญสังคมที่น่าดึงดูดซ่อนเร้นอยู่

เรื่องย่อ เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024)

เจ้าหน้าที่สายดำ

อีจองโด (เล่นบทโดย คิมอูบิน) ดำเนินงานส่งของกินที่ร้านค้าไก่ของบิดา เขามองเป็นหนุ่มน้อยปกติที่ถูกใจหมกตัวอยู่ที่ร้านค้าอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่อเล่นเกมกับเพื่อนพ้องๆ

แต่ว่าอันที่จริงแล้วเขาเป็นหนุ่มปกติที่ไม่ธรรมดา ผู้มีความพิเศษยอดเยี่ยมด้านศิลป์การต่อสู้ ได้ 9 ดั้งจมูก อีกทั้งเทควันโด เคนโด และก็ยูโด ทุกหนเมื่อมองเห็นคนตกที่นั่งลำบาก เขาไม่เคยรีรอที่จะเข้าไปช่วยเหลือ

วันหนึ่ง อีจองโดบังเอิญไปพบ ข้าราชการนักสู้ กำลังต่อสู้กับ ผู้ร้ายที่ถูกคุมปฏิบัติ โดยที่ข้อเท้ามี กำไล EM ติดอยู่ อีจองโดก็เลยรีบเข้าไปช่วย ข้าราชการนักสู้ คนนั้น ด้วยความสามารถการต่อสู้ระดับเทวดา ทำให้จัดแจงผู้ร้ายคนนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น

คำตอบจากการช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างกล้าหาญ ทำให้อีจองโดได้รับเลือกให้เป็น ข้าราชการต่อสู้ แบบชั่วครั้งชั่วคราวตรงเวลา 5 อาทิตย์ ระหว่างนั้น อีจองโดได้ร่วมมือกับข้าราชการคุมทำตัว คิมชอนไม่น (สวมบทบาทโดย คิมซองกยุยงน) ในฐานะ ข้าราชการนักสู้ หน้าที่ของเขาเป็นการเกื้อกูลในเหตุการณ์ที่มีอันตราย ระหว่างการจัดการผู้ที่เป็นคนทำความผิดที่ใช้กำลัง

ระหว่างนั้น คิมชอนไม่นมองเห็นความสามารถพิเศษด้านการต่อสู้ของอีจองโด ก็เลยเสนอแนะให้เขารับหน้าที่เป็น ข้าราชการต่อสู้ แบบถาวร เพื่อป้องกันประชากรให้ไม่มีอันตราย ด้วยความชำนาญพิเศษสำหรับในการล้มล้างอาชญากรรม กระทั่งเป็นสาเหตุของชื่อ ข้าราชการสายดำ

ประเภท

  • แอคชัน / ตลก / อาชญากรรม

ผู้กำกับ

  • คิมจูฮวัน

นำแสดงโดย

  • คิมอูบิน
  • คิมซองกยุน

ความยาว

  • 108 นาที

โดยในหนังเรื่อง Officer Black Belt เป็นแถวแอคชันผสมความคอมเมดี้ลงไป

ทำให้หนังประเด็นนี้มีความกลมกล่อม เข้ม และไม่หนักเกินความจำเป็น มองกันแบบเพลิดเพลินๆซึ่งก็ได้พรีเซนเทชั่นเรื่องราวผ่านทางผู้แสดงนำฝ่ายอย่าง “คิมอูบิน” ในคาแรคเตอร์ของ ‘อีจองโด’ ที่เขาเป็นเด็กวัยรุ่นแสนปกติที่ดำเนินชีวิตราวกับคนธรรมดาทั่วๆไป แต่ว่าแล้ววันหนึ่งเมื่อเขาได้รับจังหวะให้เข้ามาดูแลเหล่าผู้ต้องขังที่ติดกำไล EM ทำให้เขาได้มาดูแล คุมกระทำ แถมยังมองเห็นมุมมองที่เขาไม่เคยได้เผชิญ เรียกว่าโครงเรื่องสนุกสนานมากมาย!

จะว่าโครงเรื่องใหม่กิ๊ง ไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆไหม ส่วนตัวก็เห็นว่าไม่จ้ะ เรื่องราวเป็นการเอาคนเดินดินที่ไม่เคยดำเนินงานด้านการควบคุมความประพฤติมาก่อนแม้กระนั้นดันมีความถนัดด้านการต่อสู้แบบดีเข้าขั้นมาช่วยข้าราชการตัวจริงเพื่อการกระทำงานและก็ผู้แสดงนำก็รู้สึกมีความสุขับความระทึกใจที่ได้พบรายวัน

ภายหลังเข้ารับตำแหน่งชั่วครั้งคราวเรื่องก็ไหลลื่น เจ้าสู่ตอนเก็บ level ของรายละเอียดด้วยการต่อว่าดตามจัดแจงเคสที่ผู้ต้องขังหัวแข็งเป็นพิเศษ ทำให้พวกเรามองเห็นถึงความเก่งกล้าด้านการต่อสู้ของผู้แสดงนำชาย ในตอนครึ่งแรกของหนังจะเบาๆสมอง แม้กระนั้นเพียงพอตัดไปสู่ระยะหลังรายละเอียดจะออกจะหนัก **แจ้งเตือน** ไว้ก่อนเลยจ้ะว่าภาพยนตร์หัวข้อนี้มีรายละเอียดเกี่ยวพันกับความร้ายแรงทางเพศและก็เยาวชน แม้ผู้ใดกันที่ Trigger หัวข้อนี้กล้วยๆเสนอแนะว่าควรจะหลบหลีกไปก่อนที่จะดีมากยิ่งกว่า

ความสนุกสนานเริ่มขึ้นเมื่ออีจองโดกลับจากส่งไก่ทอดให้ลุกค้าบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ว่าเขากลับไม่ตั้งใจเข้าไปช่วยเหลือข้าราชการท่านหนึ่งที่กำลังโดนผู้ต้องขังที่มีกำไล EM ข้อเท้าตรงเข้ารังแก แม้ว่าคนร้านค้าจะมองเจตนาร้ายอย่างมากมากมายแค่ไหน แม้กระนั้นอีจองโดก็สามารถเอาชนะเขาได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยความสามารถเกี่ยวกับการต่อสู้ที่มีครบสูตรของเขา

ในเวลาถัดมาคิมแก่นแก้วไม่น (เล่นบทโดย คิมซองกยุยงน) ข้าราชการคุมปฏิบัติตัวได้มองเห็นความรู้ความเข้าใจอันเก่งกล้าของอีจองโดก็เลยได้ติดต่อทาบทามเขาเข้ารับหน้าที่เป็นข้าราชการสายดำ (ข้าราชการผู้ชำนาญด้านศิลป์การต่อสู้ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นคู่คิดกับข้าราชการคุมทำตัว) ในช่วงเวลาสั้นๆราวๆ 4 อาทิตย์ เพื่อรอคอยให้ข้าราชการคนก่อนที่จะถูกทำร้ายได้พักรักษาตัว

หากว่าอัตลักษณ์ในทางบทหนัง Officer Black Belt

เจ้าหน้าที่สายดำ

บางครั้งก็อาจจะมิได้มีอะไรที่สดใหม่เท่าใดนัก แต่ว่าอย่างต่ำๆหนังก็เผชิญความเร็จในด้านการเผยแพร่อาชีพแล้วก็วิถีคนทำงานคุ้มครองความสงบเงียบตัวเล็กๆที่ซึ่งพูดได้ว่า ข้าราชการสายดำ

หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเคลื่อนที่สำคัญสำหรับในการคุ้มครองป้องกันเหตุอาชญากรรมในท้องที่ ที่กลับไม่ค่อยได้รับความพอใจแล้วก็การผลักดันและสนับสนุนด้านงบประมาณที่ดีพอเพียงจากหน่วยงานที่จัดแจงดูแล ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่ยังไม่ค่อยมีการเปิดเผยเท่าใด

เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024) มากับการเล่าเรื่องสไตล์หนังภารกิจโปลิศผสมปนเปกับแนวทางการไต่สวนไต่สวนสักนิด เป็นพล็อตปกติที่ใส่ไส้ในด้วยการสะท้อนปัญหาสังคมประเทศเกาหลีใต้ได้อย่างเฉียบคม ในหัวข้ออาชญากรรมก่ออาชญากรรมทางเพศในเด็กแล้วก็เยาวชน ที่ถือว่ายังคือปัญหาใหญ่และก็เรื้อรังในพื้นที่ การเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม แบบไม่มีอะไรสลับซับซ้อนเลย ก็ถือได้ว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้หนังบริโภคได้ง่ายดี

ต้องการในฉากที่พวกเราถูกใจมากมายๆในหนังเรื่อง เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024) ก็คือฉากที่จะมีนักโทษข่มขู่ฆ่าตัวตายทำให้อีจองโด จำเป็นต้องถ่ายทอดคำบอกเล่าสิ่งที่ คิมชอนไม่นจะกล่าวออกมา ซึ่งพวกเราก็จะมองเห็นแววตา ท่าทางของจองโดที่เขาได้ถ่ายทอดออกมา เป็นฉากที่ดูแล้วซึ้งจับใจมากมาย เพราะว่านอกเหนือจากฉากบู๊แหลกแล้วนั้น ก็จะได้มองเห็นแนวทาง ความชำนาญสำหรับเพื่อการบอกของข้าราชการคุมทำตัว

เค้าเรื่องง่าย เดินเป็นเส้นตรง รู้เรื่องไม่ยาก

สำหรับเราเห็นว่าโครงเรื่อง เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024) นั้นเป็นอะไรที่ย่อยง่าย เข้าใจง่ายจ้ะ เป็นการเดินเรื่องแบบนับ 1 2 3 4 … ไปจนกระทั่ง 20 แบบเป็นเส้นตรงกะแด่ว ไม่มีการสิกข์แซก ย้อนความให้วุ่นวาย ระยะแรกหนังจะให้พวกเราทำความรู้จักกับนักแสดงหลักอย่างอีจองโดว่าเขามีความรู้และมีความเข้าใจด้านไหน หลังจากนั้นก็เลยผูกนักแสดงหลักกับรายละเอียดสำคัญอย่างการเข้ารับเป็นข้าราชการสายดำแบบพาร์ทไทม์ เมื่ออีจองโดได้เข้าไปพันพัวกับหลายๆคดีก็เลยทำให้เขาเริ่มแลเห็นจุดสำคัญหลายๆอย่างของตำแหน่งนี้กระทั่งเปลี่ยนเป็นงานที่เขาต้องการยึดเป็นงานที่ทำอยู่เป็นประจำ การไล่เรียงเรื่องราวเริ่มจากโซนเบาสมอง ไปสู่การให้ข้อมูลและก็เก็บ level ของคัวละครแล้วจึงใส่รายละเอียดหนักสมอง จุดหักเหบางประการในตอนช่วงหลังซึ่งก็ถือว่าเป็พล็อตครึ่งหนึ่งสำเร้จรูปของหนังแอ็คชั่นหลายๆเรื่อง

โดยเหตุนั้นโดยสรุปแล้ว เจ้าหน้าที่สายดำ Officer Black Belt (2024) ถือได้ว่าเป็นหนังแอคชันที่มอบคำตอบต่างที่คิดเอาไว้ จากส่วนประกอบที่มีความรู้สึกว่าจะออกมาเป็นหนังบู๊คละเคล้าฮา แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นการตีแสกหน้าหลักสำคัญทางด้านสังคมได้อย่างจัดจ้า เป็นหนังแอคชันรสชาติเข้มข้น ที่ทำออกมาได้โก้กว่าที่คิด ถึงบทหนังรวมทั้งเค้าโครงเรื่องจะมิได้สลับซับซ้อนแล้วก็มีมิติอะไรมากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นความซื่อสัตย์สำหรับการเล่าของหนังประเด็นนี้ก็ผูกหัวใจผู้ชมเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ถือว่าเป็นหนังแอคชันกิมไม่กดูไม่ยาก แม้กระนั้นใส่เครื่องปรุงและก็แต่งออกมาได้ถึงอารมณ์แบบไม่ธรรมดา

ฉาบบทคอมเมดี้มาได้แบบน่ารักน่าเอ็นดู กลมกล่อมละมุนละไม

เจ้าหน้าที่สายดำ

แม้พล็อตหลักของเรื่องเข้มข้นเปรียบได้กับกาแฟดำคั่วกึ่งกลางที่ได้กลิ่นซีบอกมากมายลบความรู้สึกชอกช้ำแค่เพียงเบาๆความเป็นคอมเมดี้ของหนังในประเด็นนี้ก็อาจจะปฏิบัติภารกิจเหมือนน้ำเชื่อม ไซรัปหรือครีมเทียมที่ช่วยเพิ่มเติมให้เรื่องมันไม่ขมเข้มเท่าไรนัก มีการเพิ่มจังหวะสนุกสนานๆเข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสแล้วก็ตัดบทความดาร์กของเรื่องราวไม่ให้มากมายเกินความจำเป็น นั่นนับได้ว่าเป็นฟีลความขำขันในต้นแบบของความเป็นประเทศเกาหลีอย่างที่เรารู้จักมาจากภาพยนตร์ ซีรีส์หลายๆเรื่อง

หนังประเด็นนี้จับคู่ Jung-do ที่ขาดแนวทางกับหัวหน้าทีมคุมปฏิบัติตน Kim Sun-min สำหรับการสำรวจผู้สวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์ตลอด 1 วัน เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้พวกเขากลับไปกระทำผิดอีก พวกเขาตรวจตราผู้ต้องขังของตนเอง ติดตามงานประจำวัน

และก็แทรกแซงเมื่อมีสิ่งใดไม่ดีเหมือนปกติ ขณะที่รอคอยให้ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บฟื้น กลุ่มที่มีคนน้อยอยู่และก็ชวน Jung-do ให้มาร่วมงานด้วยชั่วครั้งคราว ราวฝึกหัดงาน โดยมีความสามารถระดับที่ค่อนข้างสูงและก็สัญชาตญาณของตนเอง Jung-do ก็ดำตรงลงไป ทำความเข้าใจงานตำรวจไปพร้อมเพียงกัน

เรื่องราวที่เริ่มจากความเบาสมอง ประสมประสานกับใจความสำคัญสังคมที่หนักแน่นขึ้นเมื่อเรื่องราวดำเนินไป

ตัวนำ อีจองโด เป็นคนเดินดินที่เข้ามาดำเนินการในอาชีพข้าราชการผู้ดูแลผู้ต้องขังติดกำไล EM โดยเรื่องราวจะเบาๆชี้ให้เห็นถึงความทุ่มเทแล้วก็อันตรายของงานนี้ อีกทั้งการพิจารณาผู้ต้องขัง ติดตามผู้ทำความผิด แล้วก็การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เคร่งเคลียด​

ตัวหนังทำให้ผู้ชมรู้เรื่องกระบวนการทำงานของผู้ดูแลผู้ต้องขังติดกำไล EM ให้ถี่ถ้วน ตั้งแต่การมอนิเตอร์สถานะกำไล การเตรียมการอาวุธป้องกันภัย ไปจนกระทั่งการใช้ตะบองรวมทั้งเครื่องช็อตกระแสไฟฟ้าในกรณีรีบด่วน ความธรรมดาของพล็อตที่เดินเป็นเส้นตรงช่วยทำให้รู้เรื่องได้ง่าย ไม่มีการสลับซับซ้อน​ tragabuches

ยิ่งกว่านั้น ยังมีการตรวจสอบข้อความสำคัญสังคมที่ลึกซึ้งขึ้น ได้แก่ การทำงานเพื่อคุ้มครองอาชญากรรมซ้ำซากจำเจ และก็การเสียสละของข้าราชการ ซึ่งทำให้หนังประเด็นนี้มีมิติที่น่าดึงดูด หากแม้ในด้านความเบิกบานใจก็ยังมีฉากแอคชั่นที่จัดจ้ารวมทั้งจูงใจผู้ชม

หากแม้บทภาพยนตร์จะมองเรียบง่ายและก็เป็นเส้นตรง แต่ว่าการแสดงที่อดทนของดารานำ อย่างเช่น คิมอูบิน ช่วยยกฐานะให้เรื่องราวน่าดึงดูดเพิ่มขึ้น ผู้ชมก็เลยสามารถเพลินกับอีกทั้งฉากแอคชั่นและก็รายละเอียดสะท้อนสังคมที่หนังมานะพรีเซนเทชั่น

เนื่องจากว่าเป็นภาพยนต์ความยาว 100 นาทีกว่าๆ

เนื้อหาของนักแสดงก็เลยถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างจำกัดกี่ ด้วยเวลาของเรื่องที่ไม่ยาวมากสักเท่าไรนัก ไม่เหมือนกันกับซีรีย์ซึ่งสามารถพาเหล่าผู้ดูไปทำความรู้จักแต่ละนักแสดงได้อย่างระมัดระวังแต่ว่าในรูปภาพยนตร์บางทีอาจไม่ว่างมากแค่ไหน บทการเสนอแนะตัวของผู้แสดงนำชายถูกจำกัดไว้ภายในช่วงไม่กี่นาทีตอนเริ่มเรื่อง

การเล่าพื้นเพของข้าราชการคิมดื้อรั้นไม่นแบบโดยประมาณไหนจะความเป็นมาเพื่อสนิทของผู้แสดงนำชาย รวมไปจนกระทั่งป๋าของดารานำชายที่ดูราวกับว่าจะมีเงื่อนอะไรสักอย่างในใจแต่ว่าก็มิได้เล่าออกมาเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง รวมไปจนกระทั่งคู่หูอีก 3 คนของดารานำชาย พวกเราเลยแอบเสียดายส่วนนี้ไปหน่อย

ฉากต่อสู้ดีเดือด บุ่มบ่าม ดิ้นกระจัดกระจาย ด้วยความเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแล้วก็ภาพยนตร์เรื่องข้าราชการสายดำก็รู้สึกตัวเองดี ฉากการต่อสู้ก็เลยเช็ดดอัดมาอย่างมาก เอฟเฟกต์ แสงสว่าง สีแล้วก็ของเหลวสีแดงมาแบบไม่มีพร่อง ฉากต่อสู้ตื่นเต้นมากมายๆมีทั้งยังแบบการต่อสู้แบบกระจายพอเพียงเรียกเสียงเฮ และยังรวมไปถึงฉากต่อสู้ที่ใช้เวลานานหลายนาที เรื่องฉากแอ็คชั่นบอกเลยว่าทำมาได้ดิบได้ดีเลยล่ะ