spider man no way home
spider man no way home ฤดูร้อน ปี 2024 เหตุหนึ่งสัปดาห์ภายหลัง สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟรอม โฮม ในลอนดอน อังกฤษ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ได้ศึกษาค้นพบว่าตัวตนของตนเองนั้นได้ถูกเปิดโปงโดยเจ้าที่มายา มิสเตริโอที่ก่อนตายได้ทำให้ทั่วทั้งโลกได้รับทราบ และโน่นทำให้คนรอบกายของปีเตอร์พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยจากการประกาศก้องของบรรณาธิการจอมโฉด เจ โจนาห์ เจมส์สัน ทำให้ปีเตอร์จะต้องรับผิดชอบด้วยการพบด็อกเตอร์สเตรนจ์ จอมเวทย์ผู้สามารถร่ายเวทมนตร์คาถาสารพัดสารพัน
ปีเตอร์ร้องขอให้เขาช่วยลบความจำของทุกคนที่เกี่ยวเนื่องและก็ล่วงรู้ตัวตนแต่กลายเป็นว่าผลลัพธ์มันไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง spiderman no way home เมื่อสิ่งที่ปีเตอร์ได้รับไม่ใช่ผู้คนที่หลงๆลืมๆเขา กลับเป็นเหล่าคนร้ายจากอีกจักรวาลที่หลุดออกมาทำให้เกิดความปั่นป่วน ทั้งยัง ด็อกเตอร์ อ็อคโทปุส, กรีน กอบลิน, แซนด์แมน, ลิซาร์ด
รวมทั้งอิเลคโตรที่ออกตามล่าปีเตอร์อย่างไม่ลดละ แล้วก็เบาๆทำลายจักรวาลของเขาลงอย่างช้าๆเมื่อพลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง เด็กมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีเพียงแต่พลังใยแมงมุมอย่างปีเตอร์จะสามารถเดินทางกลับสู่ตัวตนของตนเองที่หลับใหลอยู่ได้หรือไม่
รีวิว ไม่สปอย
ทุกครั้งที่มีคนถามว่า ถูกใจซุปเปอร์ วีรบุรุษคนไหนกันสูงที่สุด คำตอบที่ผมจะให้ทุกคราวเลยก็คือ Spider-Man แล้วก็ผมรู้สึกว่า Spider-Man ภาคนี้เป็นภาคที่ดีเยี่ยมที่สุด ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ฉบับ ทอม ฮอลแลนด์ ทำให้เตือนสติผมอีกรอบว่าทำไมการ์ตูนถึงมีหน้าที่กับชีวิตพวกเรา และก็ทำให้ผมนึกต้องการกลับไปดูการ์ตูนทุกหน เพราะว่าด้วยความขี้เล่น ความร่าเริงรวมทั้งความเนิร์ดของบทละคร และที่สำคัญตัวนักแสดงเองก็เคมีเข้ากับการเป็นสไปเดอร์แมนสุดๆ
No Way Home เป็นภาคที่ถูกคาดหวังอย่างยิ่ง ภายหลังจากจบเฟส 3 ในรูปภาพยนตร์สังกัดจักรวาลมาร์เวล เพราะเหตุว่าตัวละครที่เป็นตัวชูโรงอย่าง กัปตันอเมริกา และก็ไอออนแมน หรือแม้แต่ โลกิ ฮอกอาย แบล็ควิลโดว์ก็ถูกลดบทบาทไปทำเป็นซีรีส์ หรือไม่ก็ล่ำลาบทกันไปเป็นที่เรียบร้อย ภาคนี้ เป็นผลลัพท์ที่ภาค Far Form Home ทิ้งเอาไว้ให้ spider-man no way home เราจะเห็นโลกที่วุ่นวายมากกว่าเดิม เมื่อปิเตอร์ ปาร์คเกอร์ ถูกเผยตัวตนให้หมู่ชนได้รับรู้
คนที่อยู่รอบข้างเขา อีกทั้ง MJ , ป้าเมย์ ,เนต เปลี่ยนเป็นที่จับตามองไปด้วย และก็โน่นทำให้การใช้ชีวิตของคนที่ปีเตอร์รัก ไม่เหมือนเดิม (ในคอมมิคบางตอนนี่ถึงกับคนรอบข้างโดนวายร้ายทรยศฆ่าตายเลยก็มี) แล้วก็จากจุดที่ปีเตอร์มีความคิดว่าคนรอบข้างบางทีก็อาจจะไม่ปลอดภัย จึงคิดหาทางทำให้ชีวิตของเขากลับมาอย่างเดิม แม้กระนั้นด้วยความเป็นเด็ก ก็เลยคิดอะไรได้ไม่มากเท่าไหร่นัก ก็เลยกลายเป็นไอเดียกล้วยๆอย่าง “การขอให้ช่วยให้ดร.สเตรนจ์ใช้เวทมนตร์คาถา” ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น
โดยประเด็นนี้ได้รับคะแนนเยอะที่สุด เอาไปถึง 97% ภาคนี้ไม่ใช่คนแสดงแม้กระนั้นนำภาพอนิเมชั่นมาแสดงแทน เป็นที่พึงพอใจในหมู่วัยรุ่นรวมทั้งคนเล่นเกมส์ เพราะเหตุว่าก่อนที่จะตัวหนังจะออกมา ได้มีเกมส์ Ps4 ออกมาก่อนและคนมีความสนใจกันมาก เรื่องราวสั้นๆของภาคนี้คือ Spiderman ได้โดนนักล่าแมงมุมล่าตัวทุกจักรวาล ซึ่งนักแสดงนำไม่ใช่ ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ แต่ผู้แสดงนำของเรื่องคือ ไมลส์ โมราเลส เด็กผิวสีที่ได้รับพลังแมงมุมมาแต่ยังไม่เคยรู้วิธีการจัดแจงแล้วก็ควบคุม มีตัวละครที่น่าสนใจอีกเยอะแยะ โดยได้มารวมตัวกันรวมทั้งสู้ไปด้วยกันในเรื่อง Spiderman-verse
เพิ่งเปิดตัวกลับเป็นชั้นที่ 2 เป็นครั้งแรกที่ spider man ไม่ต้องซ่อนตัวใต้หน้ากากอีกต่อไป รวมทั้งเขาไม่สามารถที่จะแยกชีวิตในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ออกมาจากชีวิตปกติได้อีกต่อไป เมื่อเขาไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แม้กระนั้นมันกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาทางแก้ไขและกล่าวโทษหมายของการเป็นสไปเดอร์แมน หนังประเด็นนี้จะแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวลอย่างเป็นทางการ พร้อมๆกับคนร้ายจากทั้งยัง Spider-Man รวมทั้ง The Amazing Spider-Man ก็จะมาปรากฎตัวด้วยเช่นกัน
หนังประเด็นนี้เป็นภาคต่อของ SPIDER-MAN
โดยภาคนี้ช่วงแรกๆจะเล่าถึงความรักรวมทั้งชีวิตของปีเตอร์ ขว้างร์กเกอร์ แสดงโดย โทบีย์ แมแกว่งร์ ที่ได้ลาจากการเป็น SPIDER-MAN แต่ว่าก็จำต้องหวนกลับมาอีกครั้งเพราะ เจน ถูก Dr. Otto Octavius จับไป รวมทั้งยังจำเป็นที่จะต้องยับยั้งไม่ให้การทดสอบพลังงานฟิวชั่นที่ไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ ภาคนี้จึงเป็นอีกภาคที่สนุกสนานได้ลุ้นทั้งการต่อสู้และก็ความรักของ SPIDER-MAN
วันนี้ขอเลย ขอ รีวิว Spider Man : No Way Home กันซักหน่อย หลังจากที่ทาง Inzpy ได้ไปชมมาเป็นที่เป็นระเบียบ งานนี้ยิ้มไม่หุบ ยินดีปรีดิ์เปรมทุกแอคชั่น ทุกโมเม้นท์ ที่สำคัญผมขอบอกเลยค่ะขอรับว่า ทุกคนต้องเข้าไปมองในโรงหนังแค่นั้น อย่ารอดูสตีมมิ่งอยู่ที่บ้านเลย เพราะมันจะมีโมเม้นท์ถูกใจกว่าแน่นอนบอกไว้ก่อนว่า นี่คือการรีวิว ไม่ใช่การสปอยล์อะไร แต่หากคนใดกลัวจะกลุ้มใจ อนุญาติให้ข้ามได้ ครับผมผม!
รีวิว Spider Man : No Way Home
เรื่องราวของภาคนี้จะถัดมาจากตอนจบของภาคที่แล้วอย่าง Far From Home ที่ตัวของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ถูกเปิดเผยว่าเขานั่นแหละคือ สไปเดอร์ แมน พร้อมยังถูกป้ายความผิดอีกต่างหากว่าเป็นคนฆ่า มิสเตอริโอ้ และก็จากเรื่องราวที่ตรงนี้ มันก็ได้ทำให้ชีวิตของเขานั้นวุ่นวาย ป่วนปั่น รวมทั้งกระทบไปหมดกับทุกๆสิ่ง และมันทำให้เขาต้องหาทางออก เรียกว่า เล่าเรื่องเจริญ และบันเทิงใจ
มีความตลกร้ายมาตั้งแต่ต้นเรื่อง และมันจะดึงให้คุณนั้นลงลึก แล้วก็เอาใจช่วยเขาไปกับทุกสถานการณ์ รวมทั้งเรื่องราวการตามแบบในครั้งเซอร์เลยนะครับที่ เหล่าตัวร้ายจากภาคเก่าๆออกมากันแบบครบครัน ทำเอาฟินสุดๆยิ่งผมที่มองตั้งแต่ภาคแรกด้วยแล้ว มันยิ่งยินดี แล้วก็ตรึงใจ กระทั่งยิ้มแก้มปริตลอดการดูภาพยนตร์เรื่องนี้
เป็นหนังที่มีเซอร์ไพร์สเยอะมาก มีเซอร์ไพร์สตลอดระยะเวลา แต่ดังนี้ รวมทั้งทั้งนั้น บนความบันเทิง มันสอดแทรกไปด้วยเรื่องราว ที่ปนดราม่า เรื่องราวที่บอกถึงความเป็น สไปดี้ และก็ในภาคนี้ น้องทอม ฮอลแลนด์ ก็คือมีวิวัฒนาการสำหรับเพื่อการแสดงมากมายๆเขาคือสไปดี้ ที่เป็นสไปดีจริงๆแบบสุดกำลัง
เป็นในอดีต มันจะมีคำกล่าวที่ว่า โทบี้ แมคไกร์วหมายถึงปีเตอร์ พาร์คเกอร์ แต่ว่า แอนดรูว การ์ฟีลด์ นั้นเป็น สไปเดอร์ แมน แต่สำหรัผม ทอม ฮอลแลนด์ ทำเป็นดีทั้งในบทบาทของ ปีเตอร์ และ สไปเดอร์ แมน เลยทีเดียว อีกสิ่งที่ไม่พูดถึงมิได้ คือ เซนดาญ่า ขวัญใจในชีวิตจริงของ ทอม ออลแลนด์ ผู้รับบท เอ็มเจ แฟนสาวของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ที่ภาคนี้ สวยขึ้น ดูดีมากยิ่งขึ้นๆทั้งๆที่ภาคก่อนหน้ามีความเป็น ยิปปี้หน่อยๆแต่การแสดงก็คือ ดีเลิศ ดังเดิม
อีกคนที่ต้องการจะพูดถึงเป็น วิลเล็ม เดโฟร์ ผู้ครอบครองบท กรีนก็อบบิน หรือ นอร์แมน ออสบอร์น ที่ภาคนี้ดุเดือดมากมาย ถึงแม้ว่าอายุจะมากยิ่งขึ้นมาแล้ว แต่ว่าเชื่อเถอะว่า คุณจะรักตัวร้ายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิมมากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากบู๊ ฉากแอคชั่น ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างออกมาดูดี สุดๆ
ในหลายๆแง่สไปเดอร์แมนก็มีความคล้ายคลึงกับแบ๊ทแมนของค่าย DC ตรงที่เป็นตัวละครที่ใครๆก็รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นแฟนการ์ตูนหรือไม่ก็ตาม ทั้งสองผู้แสดงยังเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของค่ายการ์ตูนของตนเองด้วย ขณะที่แบ๊ทแมนเป็นตัวละครที่สื่อถึงความมืดมนต์และซีเรียสของจักรวาล DC สไปเดอร์แมนก็เปรียบได้เสมือนดั่งเครื่องหมายของความร่าเริงติดตลกของจักรวาลมาร์เวล (ขั้นต่ำเมื่อเทียบกับ DC)
การเปรียบเทียบนี้ยังคงใช้ได้กับเกม Marvels Spider-man ด้วย เกมซึ่งสามารถอธิบายกล้วยๆในประโยคเดียวว่า เกม Batman: Arkham ฉบับมาร์เวล ซึ่งสามารถแปลงประสบการณ์ของการเป็นไอ้แมงมุมโหนอาคารออกมาในแบบวีดีโอเกมได้เกือบจะเพอร์เฟ็คพอๆกับที่ Batman: Arkham สามารถทำให้เรารู้สึกเสมือนตัวเองเป็นแบ๊ทแมนจริงๆด้วยระบบการเล่นที่ได้รับแรงดลใจมาอย่างแจ่มแจ้ง (มีฉากนึงเต็มๆที่เกือบจะลอกแบบกันมาเลย)
แต่เปลี่ยนแปลงให้ผ่องใสกระปรี้กระเปร่าในต้นแบบของมาร์เวล จุดอ่อนใหญ่ที่สุดของเกมเพียงแต่หนึ่งเดียวคงจะเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยบ่อย แถมยังเดาง่ายตามสูตรหนังมาร์เวลเกือบทุกอย่าง ทำให้เกมยังไม่สามารถขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ Batman: Arkham ได้ แต่ Marvels Spider-man ก็ยังคงเป็นเกม Open-World ที่ครบเครื่องและน่าจะชื่นชอบคนที่ถูกใจเกมแนว Action-Adventure ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับตัวยงของสไปเดอร์แมน